About Bualuang Services i-Trading TFEX Online iFIS Knowledge Management Investor Relations Contact Us
 
     
เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทุกประเภท ท่านจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆเหล่านี้ทันที :
  • มีเจ้าหน้าที่ดูแลประจำบัญชีเพื่อให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวก
  • รับเลขบัญชีและรหัสผ่านสำหรับการใช้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตของหลักทรัพย์บัวหลวง หรือ Bualuang i-Trading
  • บริการส่งบทวิเคราะห์คุณภาพผ่านทางเว็บไซต์หรือส่งตรงถึง Email ของท่าน
  • บริการข่าวสารจากสำนักข่าวชั้นนำแบบ Realtime และกราฟทางเทคนิค Technical Analysis


คิดตามการส่งคำสั่งซื้อขายและแยกประเภทบัญชีตามตาราง ต่อไปนี้ :


          * อัตราดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของค่านายหน้า
          * อัตราดังกล่าวยังไม่รวมค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ฯ (Trading Fee) 0.005%, ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (Clearing Fee) 0.001% และค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล (Regulatory Fee) 0.001% รวม 0.007% ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อวัน

ค่านายหน้าขั้นต่ำต่อวันที่ซื้อขายต่อบัญชีกำหนดตามวิธีที่ท่านชำระราคาและรับเอกสารฯ :
          - บัญชีเงินสดแบบมีหลักประกันชำระราคา (Cash Balance) ที่ทำการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต และใช้บริการ E-Confirmation คิดค่านายหน้าำตามจริง ไม่มีขั้นต่ำฯ
          - ชำระโดยหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (ATS) และรับเอกสารฯทางไปรษณีย์หรือที่ห้องค้า ขั้นต่ำฯ 100 บาท ตต่อวันที่ทำการซื้อขาย
          - ใช้บริการพนักงานรับส่งเช็คและเอกสารเพื่อการชำระฯ ขั้นต่ำฯ 200 บาท

บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง ให้บริการบัญชีซื้อขายฯ 4 ประเภทคือ
  1. บัญชีเงินสดแบบมีหลักประกันชำระราคา (Cash Balance)
  2. บัญชีเงินสดแบบมีหลักประกัน (Cash Collateral)
  3. บัญชีเงินสดแบบปกติ (Normal Cash)
  4. บัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Credit Balance)
    ลูกค้าชาวต่างชาติ รวมถึง ชาวไทยที่พำนักอยู่ต่างประเทศ ควรใช้บัญชีซื้อขายฯประเภทเงินสดแบบมีหลักประกันชำระราคา (Cash Balance)ทั้งนี้ควรมีบัญชีธนาคารเงินบาทเพื่อใช้รับเงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียนฯ กรณีชาวต่างชาติสามารถใช้ บัญชีเงินฝากแบบ Non-resident Baht Account ได้ ทั้งนี้ โปรดศึกษาเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของธนาคารกรุงเทพ (www.bangkokbank.com)

    ผู้ต้องการใช้บัญชีเงินกู้ยืมฯต้องมีประวัติการชำระราคาที่ดีกับบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง ด้วยบัญชีเงินสดมาระยะหนึ่งก่อน

    ทั้งนี้บริษัทฯไม่มีนโยบายเปิดบัญชีซื้อขายฯแบบเจ้าของบัญชีร่วม




ฝากเงินกับบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง โปรดคลิกเพื่อดู ดอกเบี้ยฝาก และ ประเภทบัญชีของหลักทรัพย์บัวหลวง. บัวหลวง
สำหรับโอนเงินเข้าเพื่อเพิ่มอำนาจซื้อ

แจ้งวิธีการชำระและโอนหลักประกันเงินสด

เพื่อเป็นไปตามที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยกำหนด เรื่องช่องทางการรับเงินจากลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์นั้น ทาง บล.บัวหลวง
จึงได้กำหนดช่องทางในการรับโอนเงินจากลูกค้าดังนี้
  1. ฝากหลักประกันอัตโนมัติผ่านอินเทอร์เน็ต (E-ATS) ของธนาคารกรุงเทพและธนาคารไทยพาณิชย์
  2. การรับเงินโดยหักบัญชีเงินฝากธนาคารของลูกค้าอัตโนมัติ (ATS)
  3. การใช้บริการชำระเงินหรือ Bill Payment ของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารไทยพาณิชย์
  4. การโอนเงินทางเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างธนาคารผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (BAHTNET)
กำหนดวันหักและโอนเงินสำหรับบัญชีซื้อขายฯทุกประเภทคือ T+2 และ ผู้ใช้บัญชีซื้อขายฯประเภท Cash Collateral และ
Normal Cash เมื่อสมัครใช้บริการ Bualuang i-Trading จะถูกขอให้ชำระราคาด้วยวิธี ATS

ทั้งนี้ บริษัทฯไม่รับบัญชีเงินฝากร่วมสำหรับชำระราคา

สำหรับลูกค้าที่ประสงค์จะตัดบัญชีผ่านบัญขีธนาคารกสิกรไทย สามารถสมัครใช้บริการตัด ATS ได้
ผ่านเครื่อง ATM ของธนาคารกสิกรไทยได้ทุกแห่ง โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
1. สอดบัตร และใส่รหัสของบัตร
2. เลือกรายการอื่น ๆ / บริการหักบัญชีอัตโนมัติ / สมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติ
3. เลือกบัญชีที่ต้องการทำรายการ
4. ใส่รหัสบริษัท 50201 และกดรหัสบริษัทถูกต้อง
5. ใส่หมายเลขสมาชิก (เลขบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 6 หลัก) และกดหมายเลขถูกต้อง
6. กดยืนยันการทำรายการ
7. หากทำรายการสมบูรณ์ จะแสดงหน้าจอ "ทำรายการเรียบร้อย" พร้อมรับใบสลิป
ทั้งนี้ หากเครื่อง ATM ใบสลิปหมด หรือการสื่อสารขัดข้อง รายการจะถูกยกเลิก
และท่าน จะต้องทำรายการใหม่
8. นำสลิป FAX มาที่เบอร์ 02 618 1127 ทั้งนี้ท่านจะสามารถใช้บริการ ATS ได้
หลังจากได้เอกสารยืนยันจากทางบริษัทฯ ทางไปรษณีย์
ดูรายละเอียดหน้าจอได้ที่นี่



รายละเอียดสำหรับลูกค้าแต่ละประเภทเป็นดังนี้ :
  1. บุคคลชาวต่างชาติ
  2. นิติบุคคลต่างชาติ
  3. บุคคลชาวไทย
  4. นิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย
บุคคลชาวต่างชาติ
  1. เตรียมเอกสารประกอบดังนี้
    a. สำเนาหนังสือเดินทาง
    b. สำเนาสมุดบัญชีธนาคารเงินบาทซึ่งมีชื่อเจ้าของบัญชีและเลขบัญชี
    c. A certified copy of a bank passbook with account number, owner name, and 6-month
    records.
  2. ดาวน์โหลด เอกสาร กรอก และ ลงนามทุกช่องที่มีเครื่องหมาย X ท่านอาจเลือกกรอกข้อมูลในหน้า Opening Request และรับเอกสารเปิดบัญชีทางไปรษณีย์
  3. ติดต่อสำนักงานบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง เพื่อนัดรับส่งเอกสาร
  4. เริ่มซื้อขายได้เมื่อได้รับเลขบัญชีและรหัสผ่าน

นิติบุคคลต่างชาติ
  1. เตรียมเอกสารประกอบดังนี้
    a. สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท
    b. สำเนามติคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเปิดบัญชี
    c. สำเนางบการเงินล่าสุดและย้อนหลัง 2 ปี
    d. สำเนาสมุดบัญชีธนาคารเงินบาทซึ่งมีชื่อเจ้าของบัญชีและเลขบัญชีกรณีใช้วิธีหัก-โอนอัตโนมัติ
    e. เอกสารรับรองการมีตัวตนจากสถานกงสุลไทย (Notary Public)
  2. ดาวน์โหลด และกรอกข้อมูลในเอกสาร ลงนามในทุกช่องที่มีเครื่องหมาย X โดยผู้มีอำนาจพร้อมประทับตรา บริษัทบนเอกสาร เปิดบัญชี และบัตรตัวอย่างลายเซ็นต์ ท่านอาจเลือกกรอกข้อมูลในหน้า Opening Request และรับเอกสารเปิดบัญชีทาง ไปรษณีย์
  3. ติดต่อสำนักงานบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง เพื่อนัดรับส่งเอกสาร
  4. เริ่มซื้อขายได้เมื่อได้รับเลขบัญชีและรหัสผ่าน

บุคคลชาวไทย
  1. เตรียมเอกสารประกอบดังนี้
    a. สำเนาบัตรประชาชน
    b. สำเนาทะเบียนบ้าน
    c. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากซึ่งมีชื่อเจ้าของบัญชี, เลขบัญชี, และรายการย้อนหลัง 6 เดือน
  2. กรอกข้อมูลแบบฟอร์มการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ คลิกที่นี่ และลงนามทุกช่องที่มีเครื่องหมาย X ทุกหน้า
  3. ส่งเอกสารแบบฟอร์มการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ และเอกสารประกอบตามข้อ 1 ผ่านทางไปรษณีย์ มาที่
    บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์)
    สาขาบัวหลวงอินเวสเมนท์สเตชั่น 1-7 อาคารซิลลิคเฮ้าส์ Unit 1A ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
  4. เริ่มซื้อขายได้เมื่อได้รับเลขบัญชีและรหัสผ่าน

นิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย
  1. เตรียมเอกสารประกอบดังนี้
    a. สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท
    b. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนฯจากกระทรวงพาณิชย์ที่อายุไม่เกิน 1 เดือน
    c.สำเนามติคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเปิดบัญชีซื้อขายฯ
    d. สำเนางบการเงินล่าสุดและย้อนหลัง 2 ปี
    e. สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี
    f.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากซึ่งมีชื่อเจ้าของบัญชีและเลขบัญชีกรณีใช้วิธีหัก-โอนอัตโนมัติ
  2. ดาวน์โหลด เอกสาร กรอก และ ลงนามทุกช่องที่มีเครื่องหมาย X ท่านอาจเลือกกรอกข้อมูลในหน้า Opening Request และรับเอกสารเปิดบัญชีทางไปรษณีย์
  3. ติดต่อสำนักงานบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง เพื่อนัดรับส่งเอกสาร
  4. เริ่มซื้อขายได้เมื่อได้รับเลขบัญชีและรหัสผ่าน


ลูกค้าสามารถเพิ่มอำนาจซื้อได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

1. การใช้บริการ Bill Payment ของธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์

Internet Banking
คลิกดูขั้นตอนการทำรายการผ่านธนาคารกรุงเทพ
คลิกดูขั้นตอนการทำรายการผ่านธนาคารกสิกรไทย
คลิกดูขั้นตอนการทำรายการผ่านธนาคารไทยพาณิชย์
ตู้ ATM
คลิกดูขั้นตอนการทำรายการผ่านธนาคารกรุงเทพ
คลิกดูขั้นตอนการทำรายการผ่านธนาคารกสิกรไทย
คลิกดูขั้นตอนการทำรายการผ่านธนาคารไทยพาณิชย์
เคาน์เตอร์ธนาคาร ดาวน์โหลดและพิมพ์แบบฟอร์มชำระเงินทางเคาน์เตอร์ธนาคาร
(B-Pay Form)

สำหรับรายการ Bill Payment ของธนาคารกรุงเทพ

เมื่อระบุเลขที่อ้างอิง 1 (เลขบัญชีหลักทรัพย์ 7 หลัก หรือ เลขบัญชีอนุพันธ์ 6 หลัก ที่ต้องการโอนหลักประกัน)และเลขที่อ้างอิง 2 (หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก) ถูกต้องครบถ้วนระบบจะดำเนินการนำเงินเข้าบัญชีหลักทรัพย์ที่ต้องการทันที

สำหรับรายการ Bill Payment ของธนาคารไทยพาณิชย์ และ กสิกรไทย

หลังจากทำรายการผ่าน Internet Banking, เครื่อง ATM หรือเคาน์เตอร์ธนาคารเสร็จสิ้นแล้ว ทางบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเงินเป็นรอบเวลา ได้แก่ 9.15 น., 10.30 น., 12.00 น., 14.00 น., 15.30 น., 16.30 น. และ 17.30 น. ของทุกวันทำการ และจะดำเนินการนำเงินเข้าบัญชีหลักทรัพย์ต่างๆ หลังจากรอบที่ตรวจสอบแล้วภายในวันทำการเดียวกัน โดยลูกค้าไม่ต้องส่งเอกสารหรือแจ้งการทำรายการแต่อย่างใด

2. E-Pay : บริการวางหลักประกันกับหลักทรัพย์บัวหลวง ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งของธนาคารกรุงเทพ
ท่านสามารถทำรายการวางหลักประกัน ผ่าน Bualuang iBanking ของธนาคารกรุงเทพ เพื่อชำระเงินวางเป็นหลักประกันเงินสดกับหลักทรัพย์บัวหลวง โดยสามารถทำรายการได้ตั้งแต่มูลค่า 10,000-500,000 บาทต่อครั้ง และท่านไม่ต้องส่งเอกสารหรือแจ้งการทำรายการแต่อย่างใด โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการชำระเงิน

อ่านคู่มือการใช้งาน คลิกที่นี่

* หมายเหตุ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนผ่านระบบ E-Pay โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

3. E-ATS บริการฝากหลักประกันการซื้อขายหุ้นหรืออนุพันธ์อัตโนมัติสำหรับนักลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ลดความยุ่งยากในการเดินทางไปโอนเงิน หรือเซ็นเอกสารตลอดจนการแจ้งบริษัทเพื่อตรวจสอบยอดเงินโอนและทำการเพิ่มยอดเงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์

โดยสามารถโอนเงินในบัญชีธนาคารเข้าบัญชีซื้อขายหุ้นหรืออนุพันธ์กับหลักทรัพย์บัวหลวง ผ่านการเข้าใช้งาน Bualuang i-Trading ได้ที่ www01.bualuang.co.th เลือกเมนูข้อมูลส่วนตัว E-Services >> E-Pay >> E-ATS ด้วยตนเอง

ธนาคารที่สามารถใช้บริการ E-ATS ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่



บัญชีเงินสดแบบมีหลักประกันชำระราคา (Cash Balance)
- ลูกค้าฝากเงินหรือหลักทรัพย์ก่อนการซื้อขาย กรณีเงินสดจะได้ดอกเบี้ยฝาก
- สามารถซื้อได้เต็มวงเงินฝาก และขายได้ตามหลักทรัพย์ที่มีในบัญชี
- ซื้อขายวันเดียวกัน ลูกค้าได้รับหรือชำระเพิ่มเฉพาะส่วนต่างของการซื้อ-ขาย
- ชำระราคาวันที่ T+2 แต่อำนาจซื้อจะได้คืนหรือถูกหักทันทีที่ซื้อหรือขาย

บัญชีเงินสดแบบมีหลักประกัน (Cash Collateral)
- ลูกค้าสามารถซื้อได้จนถึงวงเงินซึ่งกำหนดตามฐานะการเงิน
- ลูกค้าวางหลักประกันเช่น เงินสด ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ หลักทรัพย์ ขั้นต่ำ 20% ของอำนาจซื้อหรือของวงเงิน หรือตามอัตราที่บริษัทกำหนด กรณีหลักประกันเป็นเงินสดจะได้ดอกเบี้ยฝาก
- ซื้อขายวันเดียวกัน ลูกค้าได้รับหรือชำระเพิ่มเฉพาะส่วนต่างของการซื้อ

บัญชีเงินสดปกติ (Normal Cash)
- ลูกค้าสามารถซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ต้องวางหลักประกัน
- ให้บริการเฉพาะลูกค้านิติบุคคลที่ได้รับการยกเว้นตามประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ซื้อขายวันเดียวกัน ลูกค้าได้รับหรือชำระเพิ่มเฉพาะส่วนต่างของการซื้อ

บัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Credit Balance)
- ลูกค้าวางทุนหรือหลักประกัน 50% ของอำนาจซื้อหรือของวงเงินก่อนการซื้อขาย (Initial Margin) เมื่อสั่งซื้อ บริษัทฯจะทำการหักจากทุนเงินสด ส่วนขาดไปนั้นบริษัทฯจะให้กู้ยืมแก่ลูกค้า
- ซื้อขายได้เฉพาะหลักทรัพย์ใน รายการ Margin-able securities ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มตามอัตรามาร์จิ้นเบื้องต้น (Initial Margin Requirement)
- มูลค่าหุ้นในบัญชีจะถูกคำนวณทุกสิ้นวันทำการตามราคาตลาด (Mark-to-Market)
- ตัองดำรงทุนอย่างน้อย 35% ของมูลค่าหุ้นรวมในบัญชี ณ ราคาตลาด (Maintenance Margin Requirement) กรณีต่ำกว่าบริษัทฯจะเรียกส่วนทุนเพิ่มเติม
- กรณีทุนต่ำกว่า 25% ของมูลค่าหุ้นรวมในบัญชี ณ ราคาตลาด (Minimum Margin Requirement) บริษัทฯ จะเรียกคืนเงินกู้ยืมด้วยการบังคับขายหลักประกันจนกระทั่งถึงระดับดำรงทุนภายใน T+1
- สินทรัพย์ที่นับเป็นหลักประกันหรือทุนได้ประกอบด้วย เงินสด ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ หลักทรัพย์ กรณีเป็นเงินสดจะได้ ดอกเบี้ยฝาก ส่วนเงินกู้ยืมจะถูกคิด ดอกเบี้ยกู้.
- บริษัทฯอาจพิจารณาเรียกคืนเงินกู้ยืม หรือ บังคับขาย หากลูกค้ามีหนี้สินค้างชำระหรือไม่มีการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน



ดอกเบี้ยฝาก
อัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินฝาก หลักประกันเงินสด หรือ ส่วนทุนเงินสด สำหรับ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
  บัญชีเงินสดทุกประเภท
( Cash account)
ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย
บัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ( Credit balance account ) ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย
  บัญชีซื้อขายอนุพันธ์ (TFEX Account) ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย
ประกาศเรื่องการทบทวนหลักประกันเงินสดในบัญชีลูกค้า รายละเอียดคลิกที่นี่

ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม (Credit Balance)
เงินกู้ยืมจากบมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง อัตรา
TV มากกว่า OD MML
TV น้อยกว่า OD MML+2%
TV น้อยกว่า OD 2 เดือนติดต่อกัน MML+4%
TV น้อยกว่า OD for 3 เดือนติดต่อกัน MML+6%
TV น้อยกว่า OD 4 เดือนติดต่อกัน MML+8%
โดย
TV = ปริมาณซื้อขายหนึ่งเดือนสุดท้าย
OD = หนี้ค้างชำระ ณ สิ้นเดือนนั้น
MML = อัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมบัญชีมาร์จิ้นขั้นต่ำ รายละเอียดคลิกที่นี่


ค่าธรรมเนียมและค่าปรับ

1. ค่าธรรมเนียมในการให้บริการด้านหลักทรัพย์
ประเภทค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียม
1.1 ค่าธรรมเนียมเบิกใบหลักทรัพย์ รายการละ 100 บาท
1.2 ค่าธรรมเนียมโอนหลักทรัพย์ไปบริษัทสมาชิกอื่น รายการละ 100 บาท
1.3 ค่าธรรมเนียมแปลงหลักทรัพย์จาก Local เป็น Foreign หรือ Foreign เป็น Local เพื่อการปิดสมุดทะเบียนรับสิทธิ์ต่างๆ เช่น XD, XR เป็นต้น รายการละ 30 บาท
1.4 ค่าธรรมเนียมและระยะเวลาการดำเนินการกรณีลูกค้าแจ้งความประสงค์ขอข้อมูลย้อนหลัง
  1.4.1 หนังสือรับรองทรัพย์สินข้อมูลย้อนหลังไม่เกิน 3 เดือน
1.4.2 รายงานข้อมูลไม่เกิน 3 เดือน
1.4.3 รายงานข้อมูลไม่เกิน 1 ปี
1.4.4 รายงานข้อมูลไม่เกิน 2 ปี
1.4.5 รายงานข้อมูลเกินกว่า 2 ปีขึ้นไป
(นำส่งข้อมูลภายใน 2 วันทำการ)

(นำส่งข้อมูล ภายใน 2 วันทำการ)
(นำส่งข้อมูล ภายใน 7 วันทำการ)
(นำส่งข้อมูล ภายใน 7 วันทำการ)
(นำส่งข้อมูล ภายใน 10 วันทำการ)
 
ฉบับละ 100 บาท

รายการละ 100 บาท
รายการละ 200 บาท
รายการละ 300 บาท
รายการละ 500 บาท

ลูกค้าที่มีคะแนน iPoints คงเหลือ 10,000 แต้มขึ้นไปจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมขอข้อมูลทุกกรณี

2. อัตราค่าปรับ และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด ในกรณีผิดนัดหรือผิดหลักเกณฑ์การส่งมอบหลักทรัพย์หรือการชำระราคา (สำหรับ T+2 มีผลตั้งแต่รายการซื้อขายวันที่ 2 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป) (T=วันที่ซื้อขาย)
ประเภทรายการ การเรียกเก็บในแต่ละกรณีให้เรียกเก็บทั้งประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2
ประเภท 1 ค่าปรับอ้างอิงสำนักหักบัญชี TCH/TSD ประเภท 2 อ้างอิงค่าปรับตลาดหลักทรัพย์ฯ SET
2.1 การส่งมอบหลักทรัพย์ที่ขายล่าช้า    
2.1.1 ส่งมอบหลัง 12.00 น.ของวันทำ
การที่ 1 ถัดจากวันที่ขายหลักทรัพย์       
(T+1)
1. ไม่เกิน 1 วันทำการ ปรับ 0.50%
2. เกินกว่า 1 วันทำการ แต่ไม่เกิน 2 วันทำการ ปรับ 0.75%
3. เกินกว่า 2 วันทำการ แต่ไม่เกิน 3 วันทำการ ปรับ 1.00%
4. เกินกว่า 3 วันทำการ แต่ไม่เกิน 4 วันทำการ ปรับ 1.75%
(อัตราค่าปรับข้างต้นตั้งแต่ 1. – 4.  เป็นค่าปรับร้อยละของมูลค่าหลักทรัพย์ที่ผิดนัด)
ทั้งนี้ค่าปรับจะต้องไม่น้อยกว่าครั้งละ 300 บาทต่อรายหลักทรัพย์
ค่าปรับวันละ 1,000 บาทต่อวันต่อรายการ
2.1.2 ส่งมอบหลัง 8.30 น.ของวันทำการที่ 2 ถัดจากวันที่ขายหลักทรัพย์(T+2) - 1. ค่าธรรมเนียมการบังคับยืมหลักทรัพย์ โดยบริษัท สำนัก   หักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด (TCH)  อัตรา 0.495% ต่อวัน ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. บวกค่าปรับในข้อ 2.1.1 ประเภท 1
เหมือนข้อ 2.1.1 ประเภท 2
2.1.3 ส่งมอบหลัง 8.30 น. ของวันทำการที่ 3 ถัดจากวันที่ขายหลักทรัพย์ (T+3) 1. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดจากการบังคับให้ซื้อคืน (Buy-in) โดย TCH
2. บวกค่าปรับในข้อ 1.1 ประเภท 1
เหมือนข้อ 2.1.1 ประเภท 2
ประเภทรายการ การเรียกเก็บในแต่ละกรณีให้เรียกเก็บทั้งประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2
ประเภท 1 อัตราดอกเบี้ยผิดนัด ประเภท 2 อ้างอิงค่าปรับตลาดหลักทรัพย์ฯ SET
2.2 การชำระราคา    
2.2.1 ชำระราคาซื้อขายโดยไม่ผ่านระบบการหักบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ (ATS) ไม่มี ไม่ชำระผ่าน ATS ครั้งที่ 4 เป็นต้นไปภายในไตรมาส ปรับ 1,000 บาทต่อครั้ง
2.2.2 ชำระราคาล่าช้า (Over due)
(เกินวันครบกำหนด T+2)
อัตราดอกเบี้ยผิดนัด 15 % ต่อปีของมูลค่าค้างชำระแต่ละครั้งบวก 50 บาท ต่อรายการ (บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยผิดนัดดังกล่าวตามที่บริษัทเห็นสมควร) ค่าปรับวันละ 1,000 บาทต่อวันต่อรายการ


3.อัตราค่าปรับและหรือดอกเบี้ยผิดนัดชำระราคาที่เกี่ยวกับบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (T=วันที่ทำรายการ)
ประเภทรายการ ค่าธรรมเนียม
การผิดนัดชำระราคาล่่าช้ากว่ากำหนด T+1 อัตรา 15% ต่อปีของมูลค่าที่ผิดนัดหรือค้างชำระ
(บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าปรับหรืออัตราดอกเบี้ยผิดนัดดังกล่าวตามที่บริษัทเห็นสมควร)



4.อัตราค่าปรับและหรือดอกเบี้ยผิดนัดชำระราคาที่เกี่ยวกับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
ประเภทรายการ ค่าธรรมเนียม
การผิดนัดชำระราคาล่่าช้ากว่าวันที่กำหนดของตลาดที่ซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศนั้น อัตรา 15% ต่อปีของมูลค่าที่ผิดนัดหรือค้างชำระ
(บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าปรับหรืออัตราดอกเบี้ยผิดนัดดังกล่าวตามที่บริษัทเห็นสมควร)




รายการหุ้นมาร์จิ้นของ บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง




 
     
 
Resource Center

© Copyright 2013. All Rights Reserved. Bualuang Securities Public Company Limited.
BLS Customer Service Tel. 02 618 1111
ติดต่อเรา คลิกที่นี่


ข้อตกลงและเงื่อนไข  |  Terms and Conditions