About Bualuang Services i-Trading TFEX Online iFIS Knowledge Management Investor Relations Contact Us
 
     
รู้จักกับ Gold Futures

Gold Futures ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ สัญญาฟิวเจอร์ส และทองคำแท่ง เมื่อทั้ง 2 ส่วนมารวมกันจึงกลายเป็น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีทองคำแท่งเป็นสินค้าอ้างอิง


ลักษณะและข้อกำหนดของ Gold Futures

สำหรับ Gold Futures นั้น บมจ. ตลาดอนุพันธ์ได้กำหนดลักษณะและเงื่อนไขดังนี้

สินค้าอ้างอิง
ทองคำแท่งซึ่งเป็นสินค้าอ้างอิงของ Gold Futures คือทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 96.5% ซึ่งถือว่าเป็นทองคำแท่งมาตรฐานที่นิยมซื้อขายมากที่สุดในประเทศไทย

ขนาดสัญญา
Gold Futures มี 2 ขนาดของสัญญาคือ Gold Futures ขนาดทองคำแท่งหนัก 50 บาททองคำ (หรือ 762.20 กรัม) และ Mini Gold Futures ขนาดทองคำแท่งหนัก 10 บาททองคำ (หรือ 152.44 กรัม) หมายความว่าถ้าราคาของ Gold Futures อยู่ที่ 22,000 บาท มูลค่าสัญญาจะเท่ากับ 22,000 x 50 = 1,100,000 บาท หรือ ถ้าราคาของ Mini Gold Futures อยู่ที่ 21,000 บาท มูลค่าสัญญาจะเท่ากับ 21,000 x 10 = 210,000 บาท

เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ
ตลาดอนุพันธ์กำหนดให้เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุมี 6 เดือนได้แก่ กุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายน สิงหาคม ตุลาคม และธันวาคม โดยนับไปไม่เกิน 3 เดือนคู่ ทำให้ ตามปกติ สัญญา Gold Futures ที่มีการซื้อขายนั้นจะมีทั้งหมด 3 สัญญา เช่น ถ้าวันนี้เป็นวันที่ 2 ก.พ. 2554 สัญญา Gold Futures ที่มีการซื้อขายนั้นจะมีทั้งหมด 3 สัญญา และมีเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุดังนี้

  • กุมภาพันธ์ 2554
  • เมษายน 2554
  • มิถุนายน 2554

อย่างไรก็ตาม ณ วันซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญาที่ใกล้สุด ตลาดอนุพันธ์จะนำสัญญาถัดไปเข้ามาซื้อขายทันที เช่น วันซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญาที่สิ้นสุดอายุเดือน กุมภาพันธ์ 2554 ตลาดอนุพันธ์จะนำสัญญาที่สิ้นสุดอายุเดือน สิงหาคม 2554 เข้ามาซื้อขายทันที

ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำเท่ากับ 10 บาท หมายความว่าราคาของสัญญา Gold Futures ที่มีการซื้อขายกันนั้นจะสามารถส่งคำสั่งซื้อขายโดยระบุราคาได้ห่างกันไม่ต่ำกว่า 10 บาท

  • ตัวอย่างของราคาที่สามารถระบุได้มีดังนี้ 22,000 บาท 22,010 บาท และ 22,020 บาท เป็นต้น
  • ตัวอย่างของราคาที่ไม่สามารถระบุได้มีดังนี้ 22,005 บาท 22,014 บาท และ 22,029 บาท เป็นต้น

ช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคาสูงสุดแต่ละวัน
ณ เริ่มต้นของแต่ละวัน ตลาดอนุพันธ์กำหนดให้ช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาสูงสุดออกเป็น +/-10% ของราคาที่ใช้ชำระราคาในวันทำการก่อนหน้า แต่ถ้าราคาซื้อขายของ Gold Futures ของสัญญาที่มีเดือนสิ้นสุดอายุใกล้สุดสัมผัส +/-10% ของราคาที่ใช้ชำระราคาในวันทำการก่อนหน้า ตลาดอนุพันธ์จะหยุดการซื้อขายชั่วคราว แล้วจึงเปิดการซื้อขายอีกครั้งพร้อมกับขยายช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาสูงสุดออกเป็น +/- 20% ของราคาที่ใช้ชำระราคาในวันทำการก่อนหน้า

เวลาซื้อขาย
มี 6 ช่วงเวลาดังนี้

ลำดับที่

ชื่อช่วงเวลา

ช่วงเวลา

1

Pre-open

9:15 – 9:45

2

Morning session

9:45 – 12:30

3

Pre-open

14:00 – 14:30

4

Afternoon session

14:30 – 16:55

5

Pre-open

19:15 – 19:30

6

Night session

19:30 – 22:30

วันซื้อขายวันสุดท้าย
วันซื้อขายวันสุดท้ายของทุกสัญญานั้นเป็นวันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยตัวอย่างของวันซื้อขายวันสุดท้ายมีดังนี้

เดือนและ ค.ศ. ที่สัญญาหมดอายุ

วันซื้อขายวันสุดท้าย

กุมภาพันธ์ 2011

25 ก.พ. 2554

เมษายน 2011

28 เม.ย. 2554

มิถุนายน 2011

29 มิ.ย. 2554

สิงหาคม 2011

30 ส.ค. 2554

ตุลาคม 2011

28 ต.ค. 2554

ธันวาคม 2011

29 ธ.ค. 2554

นอกจากนั้น ในวันซื้อขายสุดท้ายของแต่ละสัญญา สัญญานั้นจะมีการซื้อขายสิ้นสุดในเวลา 16.30 น.

ราคาที่ใช้ชำระราคาในวันซื้อขายสุดท้าย
ใช้ราคา London Gold AM Fixing เป็นราคาอ้างอิงในการคำนวณ Final Settlement Price โดยปรับน้ำหนักจากทรอยออนซ์เป็นน้ำหนักบาททองคำ ปรับค่าความบริสุทธิ์ของทองคำจาก 99.5% เป็น 96.5% และปรับสกุลเงิน USD เป็นบาท หรือสามารถสรุปเป็นสูตรดังนี้

วิธีส่งมอบ / ชำระราคา
ในการซื้อขาย Gold Futures เป็นการส่งมอบเฉพาะกำไร/ขาดทุน จึงมีการชำระราคาเป็นเงินสดเท่านั้น (Cash Settlement)


อักษรย่อและสัญลักษณ์

Single Order
การใช้อักษรย่อสำหรับสัญญาฟิวเจอร์สแบบ Single Order ประกอบด้วย 3 ส่วนดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1

ส่วนที่ 2

ส่วนที่ 3

GF หรือ GF10

Z

11


ส่วนที่ 1 : สินค้าอ้างอิง
จะใช้สัญลักษณ์ GF แทน Gold Futures ขนาดสัญญา 50 บาท และ GF10 แทน Gold Futures ขนาดสัญญา 10 บาท

ส่วนที่ 2 : เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ
ใช้อักษรย่อหนึ่งตัวแทนชื่อเดือนดังนี้

เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ

อักษรย่อ

เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ

อักษรย่อ

กุมภาพันธ์

G

สิงหาคม

Q

เมษายน

J

ตุลาคม

V

มิถุนายน

M

ธันวาคม

Z

ส่วนที่ 3 : ปีที่สัญญาสิ้นสุดอายุ
ใช้ตัวเลข 2 ตัวสุดท้ายตามปี ค.ศ. เช่น ค.ศ. 2011 ใช้ตัวย่อเป็น 11 และ ค.ศ. 2012 ใช้ตัวย่อเป็น 12 เป็นต้น

ตัวอย่างอักษรย่อสำหรับสัญญา Gold Futures แบบ Single Order

Combination Order
การใช้อักษรย่อสำหรับสัญญาฟิวเจอร์สแบบ Combination Order ประกอบด้วย 5 ส่วนดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1

ส่วนที่ 2

ส่วนที่ 3

ส่วนที่ 4

ส่วนที่ 5

GF หรือ GF10

V

11

Z

11

ส่วนที่ 1 : สินค้าอ้างอิง
จะใช้สัญลักษณ์ GF แทน Gold Futures ขนาดสัญญา 50 บาท และ GF10 แทน Gold Futures ขนาดสัญญา 10 บาท

ส่วนที่ 2 และส่วนที่ 4 : เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ
ใช้อักษรย่อหนึ่งตัวแทนชื่อเดือนดังนี้

เดือนที่สัญญาสิ้นสุด

อักษรย่อ

เดือนที่สัญญาสิ้นสุด

อักษรย่อ

กุมภาพันธ์

G

สิงหาคม

Q

เมษายน

J

ตุลาคม

V

มิถุนายน

M

ธันวาคม

Z

ส่วนที่ 3 และส่วนที่ 5 : ปีที่สัญญาสิ้นสุดอายุ
ใช้ตัวเลข 2 ตัวสุดท้ายตามปี ค.ศ. เช่น ค.ศ. 2010 ใช้ตัวย่อเป็น 10 และ ค.ศ. 2011 ใช้ตัวย่อเป็น 11 เป็นต้น

ตัวอย่างการซื้อขายสัญญาด้วย Combination Order

  1. ในกรณีที่นักลงทุนส่งคำสั่ง ซื้อ GFV11Z11 ที่ราคา 50 บาท หมายความว่า นักลงทุนต้องการซื้อ GFZ11 และขาย GFV11 พร้อมกัน โดยราคาของ GFZ11 ลบด้วย ราคาของ GFV11 ต้องไม่สูงกว่า 50 บาท
  2. ในกรณีที่นักลงทุนส่งคำสั่ง ขาย GF10M11Q11 ที่ราคา 20 บาท หมายความว่า นักลงทุนต้องการขาย GF10Q11 และซื้อ GF10M11 พร้อมกัน โดยราคาของ GF10Q11 ลบด้วย ราคาของ GF10M11 ต้องไม่ต่ำกว่า 20 บาท

ตัวอย่างอักษรย่อสำหรับสัญญา Gold Futures แบบ Combination Order

GFG11J11

GFG11M11

GFJ11M11

GFJ11Q11

GFM11Q11

GFM11V11

GFQ11V11

GFQ11Z11

GFV11Z11

GFV11G10

GFZ11G10

GFZ11J10


การหยุดการซื้อขาย (Circuit Breaker)

ณ เวลาเริ่มซื้อขายของแต่ละวัน ตลาดอนุพันธ์กำหนดให้ราคาสูงสุดในวันทำการซื้อขาย (Ceiling Price) ไม่เกิน +10% และราคาต่ำสุด (Floor Price) ไม่ต่ำกว่า -10% จากราคาเพื่อการชำระราคา (Daily Settlement Price) ของวันทำการก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ตลาดอนุพันธ์กำหนดให้มี Circuit Breaker โดยถ้าราคาซื้อขายของ Gold Futures ของสัญญาที่มีเดือนสิ้นสุดอายุใกล้สุดสัมผัส +/- 10% ของราคาที่ใช้ชำระราคาในวันทำการก่อนหน้า ตลาดอนุพันธ์จะหยุดการซื้อขายชั่วคราว แล้วจึงเปิดการซื้อขายอีกครั้งพร้อมกับขยายช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาสูงสุดออกเป็น +/- 20% ของราคาที่ใช้ชำระราคาในวันทำการก่อนหน้า

กรณี Combination Order ตลาดอนุพันธ์กำหนดราคาสูงสุดต่ำสุดในแต่ละวันโดยใช้ Daily Settlement Price ล่าสุดของเดือนไกล ลบด้วยเดือนใกล้ (Far - Near) +200 บาท เป็นราคาสูงสุด และ –200 บาท เป็นราคาต่ำสุดของ series คู่นั้นๆ


การถือครองฐานะจนสิ้นสุดอายุสัญญา

สัญญา Gold Futures ที่ถูกถือครองจนครบอายุจะถูก Mark-to-Market ณ สิ้นวันซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญารุ่นนั้นๆเป็นการชำระราคาครั้งสุดท้าย นักลงทุนผู้ถือครองจะได้ส่วนต่างระหว่างต้นทุนสุดท้ายที่ถืออยู่กับราคาเพื่อการชำระราคาครั้งสุดท้าย (Final Settlement Price) ถือเป็นการปิดฐานะสัญญาไปโดยอัตโนมัติ

นักลงทุนมีภาระในการชำระค่านายหน้าซื้อขายจากการชำระราคาครั้งสุดท้ายนี้ด้วย


ระดับต้องรายงาน (Reportable Limit)

สำนักงาน กลต. และ ตลาดอนุพันธ์ กำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องรายงานรายชื่อของนักลงทุนที่ถือครองฐานะสัญญา Gold Futures เท่ากับหรือมากกว่า 1,000 สัญญา โดยคิดจากสัญญาซื้อขายเดือนใดเดือนหนึ่ง และสุทธิจากสัญญาซื้อและขายทุกเดือนรวมกัน


กลยุทธ์ซื้อขาย

การเก็งกำไรทิศทาง
Gold Futures เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่สามารถช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรได้ทั้งในภาวะที่ราคาทองคำอยู่ในขาขึ้นและในภาวะที่ราคาทองคำอยู่ในขาลง เพราะ Gold Futures นั้นไม่มีการส่งมอบจริงระหว่างคู่สัญญา แต่ใช้วิธีชำระราคาเป็นเงินสด ซึ่งเป็นกระบวนการจ่ายหรือรับเงินตามกำไรขาดทุนที่เกิดจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขายกับราคาที่ใช้ชำระราคา อันเป็นผลให้นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมดังต่อไปนี้ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

  1. “ซื้อก่อน ขายทีหลัง” เพื่อใช้เก็งกำไรในภาวะตลาดขาขึ้น
  2. “ขายก่อน ซื้อคืนทีหลัง” เพื่อใช้เก็งกำไรในภาวะตลาดขาลง

กลยุทธ์ซื้อขายส่วนต่างระหว่างฟิวเจอร์สต่างประเภทกัน
นอกเหนือจากการซื้อขายเพิ่อเก็งกำไรบนทิศทางของราคาทองแล้ว นักลงทุนยังสามารถทำกลยุทธ์อื่นที่ใช้สัญญาฟิวเจอร์ส 2 สัญญาพร้อมกันได้ โดยกลยุทธ์ที่นิยมมี 3 กลยุทธ์คือ

1. กลยุทธ์ Calendar Spread
องค์ประกอบของกลยุทธ์

กลยุทธ์ Calendar Spread หรือที่อาจจะรู้จักกันในชื่อ กลยุทธ์ Inter-Month Spread เป็นกลยุทธ์ที่ประกอบด้วย

  1. การซื้อ สัญญาฟิวเจอร์ส 1 สัญญา
  2. การขาย สัญญาฟิวเจอร์ส 1 สัญญา (สินค้าอ้างอิงเดียวกัน แต่เดือนหมดอายุไม่ตรงกัน)

ตัวอย่างเช่น

  1. ซื้อ GFV11 และ ขาย GFZ11 (ซื้อใกล้ ขายไกล)
  2. ขาย GFM11 และ ซื้อ GFQ11 (ซื้อไกล ขายใกล้)

วัตถุประสงค์ในการใช้กลยุทธ์

  1. นักลงทุนมีฐานะในสัญญาซึ่งไม่มีสภาพคล่องมากพอ แต่ต้องการปิดฐานะ

    ตัวอย่างเช่น สมมุติ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 นาย ก มีสถานะซื้อในสัญญา GFM11 และราคาทองคำได้ปรับตัวลงมามากแล้ว ทำให้ต้องการปิดสถานะ แต่ทว่าสัญญา GFM11 เป็นสัญญาที่ไกลที่สุดทำให้ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง

    ดังนั้น นักลงทุนควรขาย GFG11 หรือ GFJ11 ในจำนวนเท่ากันเพื่อป้องกันความเสี่ยงก่อน (หยุดขาดทุน) และค่อยปิดสัญญาทั้งสองภายหลังเมื่อมีสภาพคล่องเพียงพอ

  2. นักลงทุนมีฐานะในสัญญาหนึ่งต้องการปิดฐานะ แต่มีสัญญาอื่นที่มีราคาดีกว่ามาก

    ตัวอย่างเช่น สมมุติ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2554 นาย ก มีสถานะซื้อในสัญญา GFJ11 และต้องการปิดสถานะเพราะราคาปรับตัวขึ้นมาสูงมากแล้ว ทว่า สัญญา GFM11 มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ GFJ11

    ดังนั้น นักลงทุนควรขาย GFM11 ในจำนวนเท่ากันเพื่อป้องกันความเสี่ยงก่อน (ล็อคกำไร) และค่อยปิดสัญญาทั้งสองภายหลังเมื่อราคาของ GFJ11 เพิ่มขึ้นเทียบกับ GFM11

  3. เก็งกำไรส่วนต่างของราคาโดยตรง

    ตัวอย่างเช่น ปัจจุบัน ผลต่างของราคา (GFV11 – GFQ11) เท่ากับ 50 บาท แต่นักลงทุนคาดว่า ผลต่างของราคา (GFV11 – GFQ11) จะลดลง

    ดังนั้น นักลงทุนจึงส่งคำสั่งขาย GFQ11V11 ที่ราคา 50 บาท และค่อยปิดสัญญาทั้งสองภายหลังเมื่อผลต่างของราคา (GFV11 – GFQ11) ลดลงโดยการส่งคำสั่งซื้อ GFQ11V11

ข้อควรทราบ

  1. การซื้อขายของกลยุทธ์นี้คือ ต้นทุนไป-กลับ จะสูงกว่าต้นทุนของการซื้อขายเก็งกำไรทิศทางปกติประมาณ 2 เท่า
  2. กลยุทธ์ Calendar Spread สามารถส่งคำสั่งซื้อขายด้วย Combination Order ได้

2. กลยุทธ์ Inter-Market Spread
องค์ประกอบของกลยุทธ์
กลยุทธ์ Inter-Market Spread เป็นกลยุทธ์ที่ประกอบด้วย

  1. การซื้อ สัญญาฟิวเจอร์ส X สัญญา
  2. การขาย สัญญาฟิวเจอร์ส Y สัญญา (สินค้าอ้างอิงไม่ตรงกัน และมีประเภท Market ต่างกัน)

ตัวอย่างเช่น

  1. ซื้อ GFZ11 และ ขาย S50Z11
  2. ขาย GFM11 และ ซื้อ PTTM11

วัตถุประสงค์ในการใช้กลยุทธ์
นักลงทุนคาดว่าสินค้าอ้างอิงหนึ่งจะมีผลตอบแทนสูงกว่า (Outperform) สินค้าอ้างอิงอีกอันหนึ่ง ที่มีประเภท Market ต่างกัน

ตัวอย่างเช่น นาย ก คาดว่า ทองคำแท่งน่าจะ Outperform ดัชนี SET50 (คาดว่าส่วนต่างของผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มขึ้น)

ดังนั้น นักลงทุนสามารถทำ Inter-Market Spread ได้โดย

  • ซื้อ GFM11 ที่ราคา 14,000 บาท จำนวน 3 สัญญา
    (มูลค่าสัญญาที่ซื้อเท่ากับ 14,000 x 3 x 50 = 2,100,000 บาท)
  • ขาย S50M11 ที่ราคา 300 จุด จำนวน 7 สัญญา
    (มูลค่าสัญญาที่ขายเท่ากับ 300 x 7 x 1,000 = 2,100,000 บาท)

เมื่อต้องการปิดฐานะนักลงทุนสามารถทำได้โดย ขาย GFM11 จำนวน 3 สัญญา และซื้อ S50M11 จำนวน 7 สัญญา

ข้อควรทราบ

  1. การซื้อขายของกลยุทธ์นี้คือ ต้นทุนไป-กลับ จะสูงกว่าต้นทุนของการซื้อขายเก็งกำไรทิศทางปกติประมาณ 2 เท่า
  2. กลยุทธ์ Inter-Market Spread ไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายด้วย Combination Order ได้

ค่านายหน้าซื้อขายและค่าธรรมเนียม

Gold Futures(50 บาท)
ค่านายหน้าสำหรับ Gold Futures กำหนดเป็นแบบขั้นบันไดตั้งแต่สัญญาแรก (Sliding Scale First Contract) ตามจำนวนสัญญาต่อวัน (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับการซื้อขายแบบปกติ (Offline) และการซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Internet Trading) ดังนี้

Mini Gold Futures(10 บาท)
ค่านายหน้าสำหรับ Mini Gold Futures กำหนดเป็นแบบขั้นบันได (Sliding Scale) ตามจำนวนสัญญาต่อวัน (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับการซื้อขายแบบปกติ (Offline) และการซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Internet Trading) ดังนี้

ตัวอย่างเช่น

  • นักลงทุนซื้อขายสัญญา GFQ11 10 สัญญาต่อวันโดยผ่านการซื้อขายแบบปกติ จะต้องจ่ายค่านายหน้า = 400 x 10 = 4,000 บาท*
  • นักลงทุนซื้อขายสัญญา GF10Q11 100 สัญญาต่อวันโดยผ่านการซื้อขายระบบอินเตอร์เน็ต จะต้องจ่ายค่านายหน้า = 73 x 100= 7,300 บาท*
*อัตรานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

 
 
Resource Center

© Copyright 2013. All Rights Reserved. Bualuang Securities Public Company Limited.
BLS Customer Service Tel. 02 618 1111
ติดต่อเรา คลิกที่นี่


ข้อตกลงและเงื่อนไข  |  Terms and Conditions